บริการวีซ่าสหรัฐที่พูดภาษาไทยและอังกฤษได้คล่อง

เรารู้เรื่องวิธีให้ได้วีซ่าคู่หมั้นและวีซ่าแต่งงานสำหรับคนไทย…
และเราทำได้ดีด้วย

ทนายความด้านวีซ่าที่มีประสบการณ์จะช่วยเหลือคุณในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐ ทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้านวีซ่าคู่หมั้นและวีซ่าแต่งงานสำหรับพลเมืองไทยที่ต้องการเดินทางมาสหรัฐอเมริกา นักกฎหมายชาวอเมริกันกับภรรยาชาวไทยช่วยเหลือคนไทยคนในการขอวีซ่า ทนายความอเมริกันพูดได้สองภาษา ไทย/อังกฤษสำหรับการยื่นขอวีซ่าสหรัฐ

ข้อมูลข่าวสาร จากลักษณ์
รัฐนอร์ทแคโรไรน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
LINE ID: NCLUK

วีซ่าสหรัฐสำหรับพลเมืองไทย บริการวีซ่าสหรัฐสำหรับคนไทย ทนายสหรัฐสำหรับพลเมืองไทย วีซ่าสมรสสหรัฐสำหรับหญิงไทย วีซ่าสมรสสหรัฐสำหรับหญิงไทย วีซ่าคู่หมั้นสำหรับสหรัฐ วีซ่าคู่หมั้นสหรัฐ วีซ่าคู่หมั้น 90 วันสำหรับหญิงไทย วีซ่าคู่หมั้น K-1 สำหรับคนไทย

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน

     ใครก็ตามที่มีปัญหาเรื่องวีซ่าเข้าประเทศอเมริกา พวกเราสามารถช่วยคุณได้ค่ะ ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ดิฉันแต่งงานกับสามีชาวอเมริกัน อาชีพทนายความค่ะ แต่งงานมา 19 ปีแล้วค่ะ ดิฉันมาอยู่ประเทศอเมริกาด้วยวีซ่าคู่หมั้นค่ะ ตอนนี้ก็ได้กรีนการ์ดแล้ว ก่อนหน้านั้นดิฉันมาทำงานที่อเมริกาด้วยวีซ่าทำงานและได้เจอกันกับสามี แต่งงานที่อเมริกา แต่ก็ตัดสินใจที่จะย้ายกลับไปอยู่ที่เมืองไทย เรามีลูกด้วยกัย 1 คน พอลูกจะเริ่มเข้าเรียนชั้นม.1 พวกเราจึงตัดสินใจย้ายครอบครัวกลับมาอยู่ที่อเมริกาอีกครั้งเพื่อการศึกษาของลูก พวกเรามีประสบการณ์ในการยื่นเรื่องขอวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าทำงาน วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าคู่หมั้น พวกเราสามารถช่วยคุณได้ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเตรียมเอกสารต่างๆ และที่สำคัญเรามีล่ามแปลภาษาไทยให้กับหญิงไทยที่ยังพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องวีซ่าต่างๆเหล่านี้ ติดต่อมาหาเราได้ค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ Line ID: NCLUK

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้มีใครบางคนพูดคุยกับคุณเป็นภาษาไทยและมีความรู้กระบวนการทั้งหมด

วีซ่าสหรัฐสำหรับพลเมืองไทย

เปี่ยมด้วยประสบการณ์และความรู้ในด้านวีซ่าที่ไม่ใช่ผู้ย้ายถิ่นฐาน ( non-immigrant visa) วีซ่าคู่หมั่น 90 วัน (90-day fiancee) วีซ่าแต่งงานและกรีนการ์ด คำร้อง I-130 หนังสือรับรอง Affidavit of Support และ วีซ่า J-1 Training กับวีซ๋าการศึกษา ฉันสามารถช่วยเหลือคุณได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่รัฐไหนหรืออยู่ต่างประเทศก็ตาม

ทนายความที่ได้รับใบอนุญาตในรัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานในเมืองฮาเกอร์สทาวน์ รัฐแมรี่แลนด์ (สหรัฐอเมริกา) ผมสามารถช่วยคุณได้ไม่ว่าคุณอยู่ที่ใดในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศไทย ในด้านการกรอกและยื่นเอกสารของคุณให้กับแผนกตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกา หรือผ่านการสมัครทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ

เราได้ช่วยให้คนอื่นได้รับวีซ่าคู่หมั้นและวีซ่าแต่งงานสหรัฐ…และเราก็สามารถช่วยคุณได้เช่นกัน !!

วีซ่าคู่หมั้นและวีซ่าแต่งงาน
[K-1 Fiancee; Immigrant Visa (ผู้อยู่อาศัยถาวร/กรีนการ์ดสำหรับภรรยาคนต่างด้าว]

โดยทั่วไปแล้ว ชาวอเมริกันสามารถนำพาหญิงไทยมายังประเทศอเมริกาได้สองวิธี หนึ่งคือ การขอวีซ่าคู่หมั้น หรือ Fiancée visa (K-1) โดยกำหนดให้คุณต้องแต่งงานในสหรัฐอเมริกาภายใน 90 วัน หรือวิธีที่สองคือการแต่งงานในประเทศไทยและนำพาหญิงไทยของคุณมายังสหรัฐอเมริกาผ่านวีซ่าสมรส

หากคุณอาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 6 เดือน คุณสามารถยื่นเอกสาร คำร้องทั้งหมดในกรุงเทพฯ และจัดการงานเอกสารทั้งหมดที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ

หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ขั้นตอนการสมัครจะจะแยกออกเป็นให้ี่คุณยื่นคำร้อง I-130 ต้นฉบับสำหรับญาติ (หรือคู่หมั้น) ต่างด้าวที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แล้วให้แฟนสาวหรือภรรยาชาวไทยของคุณดำเนินการขอวีซ่าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ

แน่นอนว่า มีหลายคู่ที่พบกันในอเมริกาแล้วหมั้นหมายหรือแต่งงานกัน ในสถานการณ์นี้ เราจะดำเนินการปรับสถานะ (Adjustment of Status) สำหรับคู่หมั้นหรือภรรยาก่อนแล้วดำเนินการต่อเพื่อให้ได้รับสถานภาพการพำนักถาวร

เราสามารถจัดการขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองทั้งสองทางได้

คุณมีสองทางเลือกสำหรับบริการของเรา

ทำหน้าที่เป็นทนายความของคุณโดยสมบูรณ์แบบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสถานทูต ในกรณีนี้ เราจะแจ้งให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนของเราให้ทราบ โดยเราจะจัดเตรียมและยื่นเอกสารทั้งหมด รับจดหมายโต้ตอบการเข้าเมืองทั้งหมดในนามของคุณ เฉพาะทนายความอเมริกัน (ไม่ใช่ทนายความไทยหรือใครก็ได้) เท่านั้นที่สามารถเป็นตัวแทนของคุณต่อหน้า USCIS (หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกา) และสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ

(2) สำหรับตัวเลือกที่สองนั้น จะค่อนข้างเหมือนกับแบบแรก แต่จะไม่แจ้งให้ทราบถึงการเป็นตัวแทนของเรา เราจะช่วยคุณกรอกเอกสารทั้งหมด ช่วยคุณรวบรวมเอกสาร ช่วยคุณจัดเก็บเอกสาร (ในหลาย ๆ กรณีช่วยคุณส่งถึงเราเองด้วย) ความแตกต่างที่สำคัญคือ คุณจะได้รับการติดต่อที่สำคัญทั้งหมดจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและสถานทูต จากนั้นก็จะส่งต่อการติดต่อนั้นมาให้เราเพื่อดูว่าจะต้องช่วยเหลือคุณทำอะไรต่อไป

ในทุกกรณี แฟนหรือภรรยาชาวไทยของคุณจะได้รับคำปรึกษาฟรีโดยไม่จำกัดผ่าน LINE ID โดยปรึกษากับหญิงสาวชาวไทยของเราที่เคยผ่านกระบวนการทั้งหมดมาแล้ว ที่จริงแล้ว “ลักษณ์” นั้นได้รับวีซ่าทั้ง 3 ประเภทคือ วีซ่า J-1 Training ซึ่งเธอไปสหรัฐอเมริกาเพื่อฝึกอบรมเป็นเวลาประมาณ 2 ปี หลังจากนั้น เธอยังได้รับวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา สุดท้าย หลังจากแต่งงานกับผมแล้ว เธอยื่นขอ Immigrant Visa ตามสถานะสมรส และมาสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้อยู่อาศัยถาวร ได้รับกรีนการ์ดหลังจากนั้น 30 วัน LINE ID ทำให้คุณหรือใครก็ตามที่อยู่ในประเทศไทยสามารถโทรมาสหรัฐอเมริกาฟรีและคุยผ่าน LINE ได้ฟรี เวลาโทรขอให้ตระหนักเรื่องความแตกต่างของเวลาที่แตกต่างกันถึง 12 ชั่วโมงด้วย

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้มีใครบางคนพูดคุยกับคุณเป็นภาษาไทยและมีความรู้กระบวนการทั้งหมด

ค่าใช้จ่าย

(1) การประชุมฟรี: เรานำเสนอการประชุมฟรีเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่่องของคุณเพื่อพิจารณาว่าเราสามารถช่วยคุณได้หรือไม่ เช่น ถ้าคุณพยายามพาแฟนสาวของคุณมาสหรัฐฯด้วยวีซ่าคู่หมั้น คุณจะต้องพบปะกันในประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งครั้ง มิฉะนั้น คุณจะไม่มีสิทธิ์ได้รับวีซ่าประเภทนั้น และเราอาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่น

(2) ค่าบริการของเรา: เราคิดค่าปรึกษาต่ำกว่าค่าธรรมเนียมทนายความชั้นนำส่วนใหญ่และเรามั่นใจว่าเราได้ให้บริการที่ดีคุ้มค่า เพราะผู้ช่วยชาวไทยของเราที่สามารถช่วยเหลือแฟนสาวหรือภรรยาชาวไทยของคุณโดยแจ้งให้พวกเขาทราบว่าควรจะเตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไรและจัดเอกสารสำหรับการสัมภาษณ์อย่างไร ค่าใช้จ่ายของเราสำหรับการจัดการเรื่องทั้งหมดนี้คือ:

[$4500 USD] 4500 ดอลลาร์ โดยไม่มีการแจ้งถึงการเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการให้แก่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทยทราบ โดยไม่รวม ค่าวีซ่า, ค่าใบรายงานแพทย์

[$5850 USD] 5850 ดอลลาร์ โดยแจ้งให้ทาง USICS และสถานฑูตสหรัฐฯทราบอย่างเป็นทางการว่าเราเป็นตัวแทนในฐานะทนายความของคุณ ค่าใช้จ่ายนี้ยังรวมถึงค่าส่งจดหมายและค่าใช้จ่ายของผู้ให้บริการจัดส่ง (Federal Express หรือ DHL) ทั้งหมด สำหรับการส่งเอกสารไปยัง USCIS ในอเมริกาหรือในกรุงเทพฯ และยังจัดส่งไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯด้วย

(3) ค่าวีซ่า  ที่จะต้องจ่ายให้กับสหรัฐอเมริกา: ค่าวีซ่าจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการวีซ่าแบบ J-1 วีซ๋านักท่องเที่ยว วีซ่าคู่หมั้นหรือวีซ่าแต่งงาน (กรีนการ์ด)

สำหรับวีซ่าคู่หมั้น (K-1) กับวีซ่าคู่สมรสเรามีค่าใช้จ่ายประมาณการของปี 2562 ดังนี้:

ตั้งแต่ต้นปี 2562 เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมสำหรับกระบวนการยื่นเอกสาร K-1 อยู่ที่ 535 ดอลลาร์สำหรับแบบฟอร์ม I-129F (ยื่นกับ USCIS) 265 ดอลลาร์เพื่อยื่นขอวีซ่าคู่หมั้น (K visa) (จ่ายให้กับสถานกงสุล) และ 1,225 ดอลลาร์สำหรับแบบฟอร์ม I-485 และการปรับเปลี่ยนแพ็กเก็ตสถานะ (ยื่นกับ USCIS) รวมค่าธรรมเนียมข้อมูลทางชีวภาพ (biometrics) รวมค่าธรรมเนียมที่จะต้องนำส่งให้กับรัฐบาลสหรัฐฯคือ 2,025 ดอลลาร์

สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่าผู้ย้ายถิ่นฐานตั้นแต่ต้นปีพ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมการยื่นต่อ USCIS คือ 535 ดอลลาร์ สำหรับแบบฟอร์ม I-130 325 ดอลลาร์สำหรับการยื่นขอวีซ่า จ่ายให้แก่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และ 120 ดอลลาร์จ่ายให้แก่กระทรวงการต่างประเทศสำหรับคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรสนับสนุนการดำเนินการยื่นขอวีซ๋า (ถ้าเป็นแบบฟอร์ม I-864 จะผ่านการตรวจสอบโดย USCIS) หากทุกอย่างได้รับการอนุมัติ คุณยังจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้อพยพ (Immigrant Fee) ให้ USCIS ด้วย (220 ดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปี 2562) รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1,200 ดอลลาร์

(4) ค่าใบรายงานแพทย์: ในกรุงเทพฯ มีที่เดียวเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติและให้ราคาที่ดีที่สุด คือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และตั้งแต่ปี 2561 ค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจร่างการและฉีดวัคซีนที่จำเป็น คือ 250 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 บาท) ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับวัคซีนที่ฉีด หรือหากมีเรื่องอื่นเกิดขึ้น

(5) ค่าเบ็ดเตล็ด: อาจมีค่าแปลเอกสาร ค่าธรรมเนียมการรับรองเอกสารและอื่น ๆ เล็กน้อย ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามผู้ยื่นขอแต่ละราย

***********

If you are a Thai lady living in Thailand, you could be Here,
in Wilmington, North Carolina (USA)…or anywhere!

วีซ่า J-1 สำหรับคนไทย วีซ่านักศึกษาสำหรับคนไทย วีซ่าสหรัฐสำหรับนักศึกษาไทย วีซ่าฝึกอบรมสหรัฐสำหรับพลเมืองไทย วีซ่านักท่องเที่ยวสหรัฐสำหรับพลเมืองไทย ทนายความอเมริกันให้ความช่วยเหลือด้านวีซ่านักท่องเที่ยว ทนายความสหรัฐให้ความช่วยเหลือด้านวีซ่านักท่องเที่ยว

***************

วีซ่านักท่องเที่ยวสหรัฐสำหรับคนไทย- $750 ดอลลาร์

ถ้าคุณมาจากประเทศไทยและต้องการไปเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อทำธุรกิจหรือพักผ่อน เรายินดีช่วยเหลือคุณในการยื่นขอวีซ่านักท่องเที่ยวหรือวีซ่าธุรกิจ ด้วยการจัดการอย่างเหมาะสมของเรา พลเมืองไทยเกือบทุกคนจะได้รับวีซ่านักท่องเที่ยวหรือวีซ่าธุรกิจอันเป็นที่รู้จักกันในนามวีซ่า B-1 เพื่อธุรกิจ และวีซ่า B-2 สำหรับนักท่องเที่ยว

เราไม่เพียงแต่สามารถช่วยคุณเกี่ยวกับเอกสารทั้งหมดเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือ เราสามารถช่วยคุณรวบรวมเอกสารที่ถูกต้องเพื่อให้การยื่นขอวีซ่าของคุณถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เราสามารถแนะนำคุณเกี่ยวกับวิธีการลงทะเบียนออนไลน์ วิธีกำหนดเวลานัดหมายเรื่องวีซ่า เอกสารที่จะต้องเตรียมสำหรับการสัมภาษณ์วีซ่าของคุณ และคำถามที่น่าจะถามในการสัมภาษณ์ เราจะให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์วีซ่าเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จ

ค่าบริการของเรารวมถึงการจัดการทุกอย่างให้คุณเพียง 750 ดอลลาร์ต่อคน นอกเหนือจากค่าบริการของเราแล้ว คุณจะต้องจ่ายค่าค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าให้แก่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯด้วย และมักจะมีค่าแปลเอกสารอีกเล็กน้อยสำหรับแปลสูติบัตรและเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นโดยขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี

วีซ่านักท่องเที่ยวมักจะมีอายุสำหรับการพำนักในสหรัฐอเมริกา 6 เดือนและสามารถต่ออายุได้ในบางกรณี

โทรหาผมได้ในสหรัฐอเมริกา หรือคุยกับคุณลักษณ์ผ่าน LINE ID  ยินดีเสมอที่ได้รับการติดต่อจากคนไทย

*******************

J-1 Training Visa และสำหรับ J-1 for Students- 750 ดอลลาร์

นักเรียนนักศึกษา: หากคุณเป็นนักเรียนไทยที่ต้องการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา เราสามารถช่วยให้คุณได้รับวีซ่า J-1 เราจะจัดการทุกอย่างให้คุณรวมถึงเอกสารทั้งหมด การลงทะเบียนออนไลน์เพื่อนัดสัมภาษณ์วีซ่า งานแปลทั้งหมด และให้รายการตรวจสอบสำหรับเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด

เราเก็บค่าทนายความเพียงเล็กน้อย 750 ดอลลาร์ และคุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าให้แก่สถานทูตสหรัฐอเมริกา และค่าแปลค่ารับรองเอกสารใดๆที่อาจจำเป็น

โครงการ Summer Work and Travel Program โครงการนี้เป็นที่รู้จักกันในนามโครงการ J-1 Work and Travel ที่ให้นักศึกษาไทยได้ใช้โอกาสในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนได้พำนักและทำงานในสหรัฐอเมริกาเพื่อสัมผัสกับผู้คนและวิถีชีวิตในสหรัฐ เช่นกัน คุณจะต้องใช้วีซ่า J-1 สำหรับโครงการนี้ และคุณจะต้องอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เรียนและทำงานตามโครงการ โครงการนี้คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “โครงการแลกเปลี่ยน” โดยมีสองส่วนด้วยกัน คือ (ก) ได้รับการตอบรับและอนุมัติในฐานะผู้แลกเปลี่ยน (ข) ได้รับวีซ่า J-1

เราจัดการทุกอย่างให้กับ J-1 Visa สำหรับผู้แลกเปลี่ยน และสามารถหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้คุณโดยขึ้นอยู่กับสถานะการศึกษาและความสนใจของคุณ

ผู้รับการฝึกอบรม: ผู้รับการฝึกอบรมคืออะไร คือคนที่ไปที่สหรัฐอเมริกาเพื่อการทำงานชั่วคราว ซึ่งสามารถขยายเวลาได้สูงสุดถึง 2 ปี “ผู้รับการฝึกอบรม” มีหลายประเภทและข้อกำหนดสำหรับแต่ละประเภทก็แตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือประเภทวีซ่า J-1 สำหรับผู้ฝึกอบรมและนักเรียนแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน

ผู้ดูแลเด็ก หรือ ออแพร์ (Au Pair)
ที่ปรึกษาค่าย (Camp Counselor)
นักศึกษาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่รัฐที่ไปเยี่ยมชมงาน (Government Visitor)
ผู้ฝึกงาน
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (International Visitor)
แพทย์
อาจารย์
นักวิชาการวิจัย
นักเรียนระดับมัธยม
นักวิชาการระยะสั้น (Short-Term Scholar)
ผู้เชี่ยวชาญ
โครงการทำงานท่องเที่ยวภาคฤดูร้อน (Summer Work Travel)
ครูบาอาจารย์
ผู้ฝึกงาน

สามารถดูรายละเอียดของแต่ละประเภทได้ที่นี่: https://j1visa.state.gov/programs/au-pair/

นักเรียนไทยและคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ศึกษาระดับวิทยาลัยจะสมัคร”โครงการทำงานท่องเที่ยวภาคฤดูร้อน (Summer Work Travel)”  “นักเรียนโรงเรียนมัธยม” หรือ “ออแพร์” ในโครงการออแพร์ (Au Pair) คนไทยอายุ 18-26 ปีและครอบครัวอุปถัมภ์จะมีโอกาสในการแลกเปลี่ยนและอยู่ร่วมกันในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ผู้เข้าร่วมโครงการยังคงสามารถศึกษาต่อในขณะที่สัมผัสชีวิตประจำวันกับครอบครัวชาวอเมริกัน และครอบครัวอุปภัมภ์จะได้รับการดูแลเด็กๆที่มีความรับผิดชอบไว้ใจได้จากบุคคลที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

ค่าบริการและค่ายื่นขอวีซ่าของเรา (ซึ่งอาจต้องมีผู้อุปภัมภ์) จะแตกต่างกันอย่างมากในวีซ่าประเภทนี้ โดยขึ้นอยู่กับอายุ การศึกษาของคุณ และประเภทวีซ๋า J-1 ที่คุณยื่นขอด้วย

แต่ถ้าคุณอยากไปอเมริกา เราก็จะทำให้คุณไปถึงที่นั่นได้!! ขอให้บอกเราว่าเราสามารถช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริงได้อย่างไร

************

ปรึกษาเรื่องวีซ่าสหรัฐฟรีตลอดเวลา ใช้ Line ID เพื่อติดต่อทนายความอเมริกัน ใช้ Line ID เพื่อพูดภาษาไทย เราทำ I-130 สำหรับญาติคนต่างด้าวของคุณ เราช่วยเหลือเรื่องใบรับรองแพทย์ของคุณสำหรับวีซ่าสหรัฐ คำให้การของแบบฟอร์ม I-864

เราให้บริการคู่สามีภรรยาโดยการช่วยเหลือผู้อุปถัมภ์สหรัฐกับคำร้อง I-130 สำหรับญาติชาวต่างชาติ หนังสือรับรองและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเรายังช่วยพลเมืองไทยในการยื่นขอวีซ่า ขั้นตอนการตรวจสุขภาพ รวบรวมเอกสารและการนัดสัมภาษณ์ ให้คำแนะนำทีละขั้นสำหรับการสัมภาษณ์วีซ่า

****************